6 เหตุผลที่ควรเปลี่ยนมาใช้ LED
6 เหตุผลที่ควรเปลี่ยนมาใช้ LED
1. ประหยัด (Save Money)
หลอดไฟ LED เป็นหลอดไฟที่ประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไฟประเภทอื่นๆที่มีอยู่ในตลาดทั้งหมดซึ่งจะช่วยให้ประหยัดเงินค่าไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 15-75% แล้วแต่ชนิดของหลอดเดิม
2. ไม่ร้อน
ในขณะที่หลอดไฟ LED แทบจะไม่ปล่อยความร้อนออกมาเลย หลอดฟลูออเรสเซนต์ที่ใช้ตามบ้านเรือนนั้น จะมีการปล่อยความร้อนออกมาอยู่ในระดับ 70-90 องศาเซลเซียสในขณะใช้งาน หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือ หลอดฮาโลเจน (halogen) จะปล่อยความร้อนออกมาถึง 150-200 องศาเซลเซียส การเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED จะทำให้ลดค่าไฟที่ต้องใช้ในระบบปรับอากาศลงได้
3. ไม่มีแสง UV
หลอดไฟประเภท LED เป็นที่นิยมใช้ในยุโรปและประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหมด จะไม่มีแสง UV เมื่อเทียบกับหลอดไฟนีออน ที่จะมีแสง UV ปล่อยออกมาพร้อมกับแสงสว่างที่เกิดขึ้น นอกจากรังสี UV นี้จะมีผลต่อผิวหนังมนุษย์แล้ว ยังมีผลกระทบต่อสินค้าที่โดนแสงอย่างต่อเนื่องยาวนานอีกด้วย
4. แสงที่ได้ไม่กระพริบ
หลอดไฟฟูออเรสเซ้นต์แบบเดิมนั้นจะมีการกระพริบของแสงที่ความถี่ของการกระพริบ 50 Hz. คนงานและพนักงานประมาณ 10-30% มีปฏิกิริยากับการกระพริบของแสงเหล่านี้ โดยอาการที่เกิดเช่น อาการปวดหัว ปวดตา เมื่อมองชิ้นงานภายใต้แสงนีออนต่อเนื่องหลายชั่วโมง และหากพนักงานเหล่านั้นอยู่ในสายการผลิตก็อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อ อัตราประสิทธิภาพในการทำงานได้ด้วยเช่นเดียวกัน
LED สามารถแสดงผลการกระพริบได้ถี่มากกว่า 400 Hz โดยประมาณ ซึ่งก็เป็นความถี่เกินกว่าที่สายตาจะรับรู้ได้
5. ออกแบบทิศทางได้
เนื่องจาก LED จะมีทิศทางการส่องสว่างแบบเป็นท่อ ไม่ได้กระจายออกทุกทิศทางเช่นเดียวกับหลอดฟลูออเรสเซนท์ ทำให้สามารถออกแบบตัวหลอดให้เหมาะสมกับโคม โดยไม่ปล่อยแสงไปในทิศทางที่ไม่ต้องการได้
6. ทนต่อการสั่นสะเทือน
LED สามารถใช้งานได้เป็นระยะเวลานาน เนื่องจากกินไฟน้อยกว่า ประหยัดกว่า และยังทนต่อการสั่นสะเทือนได้อีกด้วย เช่น ลิฟต์ จะติดไฟประเภท LED เพราะลิฟต์มีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา การใช้หลอดไฟ LED ทำให้ลดโอกาสการเสียของหลอดไฟได้มากขึ้น ไม่ต้องเปลี่ยนหลอดไฟถี่เท่าเดิม
สินค้าไฟส่องสว่าง LED