ความลับของ LED ในประเทศไทย
ประเทศไทยเมืองร้อน
การออกแบบ LED ให้ทำงานได้ในสภาพแวดล้อมของประเทศไทย ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบสำคัญทางด้านอุณหภูมิเป็นหลัก เพราะอากาศของเมืองไทยเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 32.3°C -36.2 °C และสูงสุดในสถิติ 43.5°C (อ้างอิงจาก กรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th ) ดังนั้นการออกแบบการทำงานของ LED ในประเทศไทย จึงต้อง แตกต่าง
อากาศของเมืองไทยเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 32.3°C -36.2 °C และสูงสุดในสถิติ 43.5°C
การออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์จะมีอุณหภูมิอ้างอิง (Tc) ที่ 25°C เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับอุณหภูมิอากาศเมืองไทย ที่ 36.2 °C จะเห็นว่ามากกว่าอุณหภูมิอ้างอิง (Tc) ที่ 25°C ถึง 11.2 °C ด้วยความโหดร้ายของอุณหภูมิของไทยนี้เอง ทำให้อายุการใช้งานของหลอด LED ที่นำเข้าจากเมืองหนาวทั้งหลายจึง ทำงานในไทยได้ไม่นาน
เมื่อความร้อนคือปัจจัยสำคัญการออกแบบวงจร LED อย่างไรให้ทนทานต่ออุณหภูมิ โดยสรุปมีอยู่ 2ทางเลือกคือ
เพิ่มการระบายความร้อนให้กับ LED และ ลดความร้อนที่เกิดจาก LED
1. เพิ่มการระบายความร้อนให้กับ LED
การระบายความร้อนของ LED ในระบบใหญ่จะใช้การส่งถ่ายความร้อนจากตัว LED ไปยังแผ่นระบายความร้อน ซึ่งทำให้ LED ที่มีกำลังวัตต์สูงให้ความสว่างจำเป็นต้องมีแผ่นอะลูมิเนียมฮีตซิ้งค์ขนาดใหญ่ เพื่อระบายความร้อนสู่อากาศได้ดี หากอุณหภูมิอากาศโดยรอบมีอุณหภูมิสูงก็ยิ่งจำเป็นต้องเพิ่มขนาดของแผ่นระบายความร้อนนี้ให้ใหญ่ขึ้น นั่นหมายถึงน้ำหนักและค่าใช้จ่ายที่ต้องเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ BlueTECH ได้ออกแบบการส่งถ่ายความร้อนรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีฮีตไปต์ ( Heatpipe ) ที่มีคุณสมบัตินำความร้อนได้รวดเร็วพร้อมกับครีบระบายความร้อนในแนวตั้งที่ส่งถ่ายความร้อนสู่อากาศได้รวดเร็ว ทำให้อุณหภูมิ LED ของ BlueTECH ไม่สูง สามารถทำงานในอุณหภูมิที่โหดร้ายของเมืองไทยที่สูงถึง 43.5°C ได้อย่างแน่นอน
สินค้าไฟส่องสว่าง LED
หลักการทำงานของของฮีตไปต์
ชิป LED จำนวนมากที่ติดตั้งบนแผ่นระบายความร้อนที่ใช้ฮีตไปต์
BlueTECH การระบายความร้อนที่เหนือกว่าด้วยฮีตไปต์ ทำงานร่วมกับครีบระบายความร้อนในแนวตั้ง
2. ลดความร้อนที่เกิดจาก LED
การลดความร้อนที่เกิดจาก LED ในทางปฏิบัติของผู้ออกแบบวงจรนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะลดความร้อนของ LED ต้องอาศัยคุณสมบัติของ LED จากผู้ผลิตชิปเท่านั้นเป็นผู้กำหนด ปริมาณความร้อนของ LED เราดูได้จาก ค่า Lm/W ที่ LED ตัวนั้นๆ ทำได้ ยกตัวอย่าง LED ที่มีค่า Lm/W มาก พลังงานไฟฟ้าที่ป้อนให้ LED แปรเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าไปเป็นแสงได้มาก พลังงานที่กลายเป็นความร้อนน้อย ในทางกลับกันหาก LED มีค่า Lm/W น้อย พลังงานไฟฟ้าที่ป้อนให้ LED แปรเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าไปเป็นแสงได้น้อย พลังงานที่กลายเป็นความร้อนมาก แน่นอนว่าทางทีมวิจัยและพัฒนาของ BlueTECH ได้คัดสรรค์ LED ที่ดีที่สุด ให้แสงสว่าง Lm/W ได้สูงสุดถึง 184.1 Lm/W ทำให้ได้แสงสว่างมากสูญเสียพลังงานความร้อนน้อยลง
ตารางเปรียบเทียบค่าความสว่าง และค่าความร้อนในระหว่างการใช้งาน
เมื่อสรุปหากเรานำข้อดีของการใช้ เทคโนโลยีของอีตไปต์( Heatpipe ) เพิ่มการระบายความร้อนให้กับ LED และใช้ LED ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นมีค่า Lm/W มากก็สามารถ ลดความร้อนที่เกิดจาก LED ทั้งสองข้อนี้ช่วยให้เราได้โคมไฟ LED ที่ประหยัดไฟ ให้แสงสว่างมาก ทนทาน ขนาดเล็ก กำลังวัตต์สูง เหมาะกับสภาพความร้อนของเมืองไทย ออกแบบด้วยความเข้าใจในสภาพแวดล้อมของคนไทย ด้วยฝีมือคนไทย